เมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่จากทั่วทุกมุมยุโรปร่วมกับ Europol ซึ่งเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหภาพยุโรป ได้ร่วมมือกันทลายองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่สามารถฟอกเงินได้กว่า 700 ล้านยูโร (815.75 ล้านดอลลาร์) ผ่านการหลอกลวงการลงทุนออนไลน์และแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลปลอม การปฏิบัติการระหว่างประเทศครั้งนี้ถือเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญในกระบวนการสืบสวนที่ได้ดำเนินมาเป็นเวลาหลายปี
เครือข่ายอาชญากรรมขั้นสูงถูกเปิดโปง
การสืบสวนในช่วงแรกพบว่าเครือข่ายสกุลเงินดิจิทัลปลอมนั้นได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากคอลเซ็นเตอร์ที่มีความมั่นใจสูง เจ้าหน้าที่ในคอลเซ็นเตอร์ใช้กลยุทธ์วิศวกรรมสังคมเพื่อกดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อลวงให้เหยื่อเชื่อในผลตอบแทนสูง แดชบอร์ดการซื้อขายปลอมเหล่านี้จะมีการบิดเบือนข้อมูลผลตอบแทน เมื่อเหยื่อโอนคริปโตให้กับเครือข่ายอาชญากรรม กลุ่มนี้จะรีบเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ข้ามบล็อกเชนและแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างรวดเร็วเพื่อสร้างความซับซ้อนและยากต่อการติดตามแหล่งที่มา
ขอบเขตของการหลอกลวงนี้ได้ขยายตัวไกลกว่าต้นทางของแพลตฟอร์มคริปโตปลอมเดิม ตามที่ Europol ระบุ ปฏิบัติการขององค์กรอาชญากรรมนี้พัฒนาไปสู่การมีหลายเว็บไซต์และโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ซับซ้อน ขยายออกไปในหลายพื้นที่เขตอำนาจ ก่อให้เกิดความซับซ้อนอย่างน่าทึ่งในกิจกรรมอาชญากรรมนี้
การโจมตีครั้งใหญ่ต่ออุตสาหกรรมโกงคริปโต
ช่วงแรกของปฏิบัติการที่ประสานงานกันนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกค้นพร้อมกันในไซปรัส สเปน และเยอรมนี ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่เบลเยียมและฝรั่งเศส ผลของปฏิบัติการนี้ทำให้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 รายในข้อหามีส่วนร่วมในการฟอกเงินที่ได้จากแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลปลอม
ระหว่างการเข้าค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถยึดทรัพย์สินได้ประมาณ 800,000 ยูโร (932,000 ดอลลาร์) จากบัญชีธนาคาร อีก 415,000 ยูโร (483,500 ดอลลาร์) ในสกุลเงินดิจิทัลหลากหลายชนิด และเงินสดอีก 300,000 ยูโร (349,500 ดอลลาร์) พร้อมทั้งนาฬิกามูลค่าสูง อุปกรณ์ดิจิทัล และทรัพย์สินอื่น ๆ เฟสแรกนี้ดำเนินการโดยมีหน่วยงานในเบลเยียม เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน มอลตา และไซปรัส ร่วมกับ Europol และ Eurojust ให้การสนับสนุน
เฟสที่สอง: เข้าจัดการเครือข่ายการตลาดพันธมิตร
ภายหลังจากที่เฟสแรกประสบความสำเร็จแล้ว เฟสที่สองได้ดำเนินการต่อในวันที่ 25 และ 26 พฤศจิกายน โดยมีการมุ่งเป้าไปที่เครือข่ายการตลาดพันธมิตรที่ต้องสงสัย น่าตกใจที่เครือข่ายเหล่านี้ใช้กลยุทธ์หลอกลวงเพื่อหลอกล่อเหยื่อให้ตกเป็นเป้าหมายเพิ่มเติม ด้วยการปลอมเป็นสื่อมวลชนชื่อดัง บุคคลสาธารณะ และนักการเมือง รวมถึงใช้เทคโนโลยี deepfake วิดีโอ ทำให้กลุ่มอาชญากรสามารถล่อเอาเงินเหยื่อเข้าสู่แผนการหลอกลวงของตนได้
ในเฟสนี้ ได้มีการตรวจค้นบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญส่งเสริมการตลาดออนไลน์ โดยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ในอิสราเอล เบลเยียม เยอรมนี และบัลแกเรีย พร้อมการสนับสนุนจาก Europol ในด้านการประสานงานและแนวทาง
Europol ระบุว่าปฏิบัติการเหล่านี้เป็น “การโจมตีที่ประสานกันต่อเสาหลักของอุตสาหกรรมโกงออนไลน์คริปโต” และย้ำว่าจะยังคงตรวจสอบและติดตามทรัพย์สินขององค์กรอาชญากรรมนี้ในทุกประเทศที่บริษัทดำเนินงานหรือพักอาศัย
สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป?
ท่ามกลางแนวโน้มที่มีผู้คนเข้าสู่แวดวงสกุลเงินดิจิทัลและการเงินดิจิทัลมากขึ้น ยิ่งต้องยกระดับความตระหนักรู้เกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ กลุ่มมิจฉาชีพจะยังคงคิดค้นวิธีใหม่ ๆ เพื่อหาประโยชน์จากอุตสาหกรรมนี้ ดังนั้น ความจำเป็นของมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง กฎระเบียบปฏิบัติที่เข้มงวด และความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อสู้กับอาชญากรรมประเภทนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
คดีนี้เป็นเครื่องเตือนใจอย่างหนักถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ในโลกดิจิทัล แม้ความพยายามของ Europol จะน่ายกย่อง แต่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เป็นเครื่องเตือนใจในระดับโลกว่าความปลอดภัยในการลงทุนและทำธุรกรรมออนไลน์ควรเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญสูงสุดเสมอ

